144 สถิติ Digital Marketing ที่คุณต้องทึ่ง (2022)
- 5 June 2022
คุณกำลังจะดูรายการสถิติ Digital Marketing 144 รายการ
ซึ่งแตกต่างกับรายการอื่นๆ สถิติทั้งหมดในนี้ เป็นปัจจุบัน
ในบทความนี้ คุณจะพบกับสื่อ Digital รูปแบบใหม่
และสถิติการตลาดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น:
สถิติเกี่ยวกับ SEO และ Google
Marketing Automation
PPC และการโฆษณาออนไลน์
ค้นหาด้วยเสียง
Affiliate marketing
การตลาดบนโซเชียลมีเดีย
มาดูสถิติกันเลย
สาระบัญ
- SEO และ Google
- PPC และการโฆษณาออนไลน์
- การตลาดบนโซเชียลมีเดีย
- Email Marketing
- Content Marketing
- Marketing Automation
- Affiliate Marketing
- สถิติเกี่ยวกับการเพิ่ม Conversion Rate
สถิติเกี่ยวกับ SEO และ Google
อันดับผลการค้นหาใน Google
สถิติเกี่ยวกับ Digital Marketing ชุดแรกของเรานั้น เกี่ยวกับเรื่อง SEO คุณจะเห็นข้อมูลจากการศึกษาใน แบบสำรวจ… และแม้แต่สถิติบางส่วนจาก Google เอง
- ผลการค้นหาเฉลี่ยบนหน้าแรกของ Google มีความยาวเฉลี่ย 1,890 คำ (Backlinko)
- หน้าที่โหลดเร็วมีอันดับสูงกว่าหน้าที่โหลดช้า (Backlinko)
- หน้าที่มีอัตราตีกลับต่ำมักจะมีอันดับ Google สูงกว่า (Backlinko)
- การศึกษาของ Ahrefs พบว่าภายในปีแรกของการเผยแพร่บทความ มีเพียง 5.7% ของหน้าเว็บเท่านั้น ที่จะติดอันดับในผลการค้นหา 10 อันดับแรก (Ahrefs)
- เกือบ 60% ของผลการค้นหา 10 อันดับแรกของ Google มีอายุ 3 ปีขึ้นไป (Ahrefs)
- ข้อความ anchor ที่ตรงกันทุกประการยังคงส่งผลต่อการจัดอันดับใน Google (Backlinko)
การค้นหาด้วยเสียง
การค้นหาด้วยเสียงกำลังเพิ่มขึ้น คำถามคือ SEO การค้นหาด้วยเสียงทำงานอย่างไร และนักการตลาดจะทำให้เนื้อหาของตนดีต่อการค้นหาด้วยเสียงได้อย่างไร การค้นพบนี้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับคำถามนี้
- การวิเคราะห์ผลการค้นหาหน้าแรกของ Google 10,000 รายการของ Brian Dean (ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ระดับโลก) พบว่า 40.7% ของคำตอบในการค้นหาด้วยเสียงทั้งหมดดึงมาจาก Featured Snippet (Backlinko)
- 70.4% ของผลการค้นหาด้วยเสียงเป็นเว็บไซต์แบบ HTTPS (Backlinko)
- คำที่ใช้ค้นหาด้วยเสียงโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.2 คำ แต่สำหรับการค้นหาแบบปกติจะอยู่ที่ 3.2 คำโดยเฉลี่ย (Bruce Clay)
การค้นหาใน Youtube
YouTube ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยม แต่ยังเป็นหนึ่งใน Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสถิติที่น่าสนใจเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของอัลกอริธึมการค้นหาของ YouTube
- การวิเคราะห์ของ Brian Dean เกี่ยวกับวิดีโอ YouTube 1.3 ล้านรายการ พบว่าจำนวนคอมเม้น ยอดวิว จำนวนการแชร์ และจำนวนการกดไลค์ มีความสัมพันธ์อย่างมากกับอันดับ YouTube ที่สูงขึ้น (Backlinko)
- วิดีโอในหน้าแรกของผลการค้นหาบน YouTube มีความยาวเฉลี่ย 14 นาที 50 วินาที (Backlinko)
- 68.2% ของวิดีโอในหน้าแรกของ YouTube เป็นแบบ HD (Backlinko)
- วิดีโอ YouTube ที่สร้างโดย Youtube หน้าใหม่มักจะอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น (Backlinko)
Backlinks
นี่คือหลักฐานที่ทำให้เรารู้ว่าความจริงแล้ว Backlinks ยังคงมีความสำคัญและเป็นรากฐานของอัลกอริทึมของ Google
- จากการศึกษาของ Backlinko พบว่าจำนวนโดเมนที่อ้างอิงจาก Backlinks ยังคงเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์สูงสุดกับอันดับที่สูงของ Google (Backlinko)
- บทความที่ยาวได้รับ Backlink มากกว่าบทความสั้นโดยเฉลี่ย 77.2% (Backlinko)
- การศึกษาของ Ahrefs พบว่า 43.7% ของผลการค้นหา 10 อันดับแรกมีลิงค์เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน (Ahrefs)
- ผลการค้นหาอันดับ 1 ได้รับ Backlink มากกว่า 5%-14.5% จากเว็บไซต์ใหม่ในแต่ละเดือนเมื่อเทียบกับอันดับอื่นๆ ในผลการค้นหา (Ahrefs)
Local SEO
Local SEO หรือการทำ SEO แบบเฉพาะเจาะจงตามในท้องถิ่น พื้นที่หรือสถานที่ เป็นสิ่งที่แตกต่างจาก SEO ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และหากคุณทำธุรกิจในท้องถิ่น (หรือมีลูกค้าเฉพาะบางพื้นที่) สถิติเหล่านี้จะช่วยตอกย้ำว่า SEO มีประโยชน์เพียงใด
- 46% ของคนที่ค้นหาข้อมูลทั้งหมด บน Google กำลังมองหาข้อมูลบางอย่างในท้องถิ่น (SEO Expert Brad)
- 76% ของคนที่ค้นหา ตกลงเป็นลูกค้าหรือซื้อสินค้าภายใน 1 วัน หลังจากค้นหาบางสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงด้วยมือถือ (Google)
- 28% ของการค้นหาในท้องถิ่นส่งผลให้ผู้ค้นหาทำการซื้อมากขึ้น (Google)
SEO สำหรับมือถือ
เช่นเดียวกับธุรกิจออนไลน์อื่นๆ Mobile SEO หรือ SEO สำหรับมือถือ มีความสำคัญมากขึ้น สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการค้นหาบนมือถือมีมากเพียงใดในปี 2022
- 58% ของการค้นหา Google ทั้งหมด มาจากบนมือถือ (hitwise)
- 20% ของการค้นหาบนมือถือ เป็นการค้นหาด้วยเสียง (Search Engine Land)
- CTR แบบออร์แกนิกบนมือถือ นั้นน้อยกว่า CTR บนเดสก์ท็อป ประมาณ 50% (SparkToro)
- 30% ของการค้นหาทั้งหมดบนมือถือเกี่ยวข้องกับสถานที่ (Google)
- 87% ของคนที่มีโทรศัพท์มือถือ ใช้ Google ค้นหาข้อมูลทุกวัน (Go-Globe)
- 51% ของคนที่มีโทรศัพท์มือถือ พบผลิตภัณฑ์หรือบริษัทใหม่ เมื่อทำการค้นหาบนมือถือ (Google)
เทรนด์ของ Google
SEO มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คือเรื่องจริงแท้แน่นอน ดังนั้นนี่คือ สถิติที่ทำให้เห็นว่า SEO (และการค้นหาโดยทั่วไป) กำลังมุ่งเน้นไปในทิศทางใด
- จากข้อมูลของ Aherfs 12.3% ของข้อความค้นหามีตัวอย่างข้อมูล Feature Snippet (Ahrefs)
- มีการค้นหามากกว่า 3.5 พันล้านครั้งบน Google ในแต่ละวัน (Ardor SEO)
- 21% ของผู้ค้นหา คลิกผลการค้นหา 2 รายการขึ้นไป (Moz)
- ประมาณ 8% ของการค้นหาใช้วลีเป็นคำถาม (Moz)
- WordStream พบว่าความคุ้นเคยในแบรนด์ ช่วยเพิ่ม CTR ได้ 2-3 เท่า (WordStream)
- อันดับ 1 ถึง 3 ในผลการค้นหา มีค่า CTR 36% (Searchmetrics)
- 75% ของผู้ค้นหาไม่เคยไปถึงหน้า 2 ของผลการค้นหา (HubSpot)
สถิติเกี่ยวกับ PPC และการโฆษณาออนไลน์
ในส่วนนี้ เราจะพูดถึงสถิติ Digital Marketing ที่เกี่ยวกับ PPC โดยเน้นที่ Google Ads ดังนั้น หากคุณสงสัยว่ามีคนคลิก Google Ads กี่คน หรือเพราะเหตุใดจึงมีการคลิกโฆษณาบางรายการมากกว่าโฆษณาอื่นๆ คุณจะเข้าใจได้หากดูสถิตินี้
- โฆษณา Google โดยเฉลี่ยมี CTR 3.17% (WordStream)
- ราคาต่อหนึ่งคลิกโดยเฉลี่ยสำหรับโฆษณา Google คือ $2.69 (WordStream)
- อัตรา Conversion เฉลี่ยสำหรับโฆษณา Google คือ 3.75% (WordStream)
- ราคาต่อหนึ่งคลิกโดยเฉลี่ยสำหรับโฆษณาบน Bing คือ $1.54 (WordStream)
- จากข้อมูลของ Google ผู้โฆษณาจะได้รับผลตอบแทน $2 ต่อทุกๆ $1 ที่พวกเขาใช้จ่ายใน Google Ads (Google)
- CTR โดยเฉลี่ยในโฆษณาบนการค้นหาบนมือถือลดลง 45% จากโฆษณาในอันดับที่หนึ่ง เหลือเพียงโฆษณาในตำแหน่งที่สอง (WordStream)
- 33% ของผู้ค้นหาบอกว่า สาเหตุที่คลิกบนโฆษณา เพราะว่า มันตอบคำถามในใจได้โดยตรง (Clutch)
- 49% ของผู้คนคลิกโฆษณาบนการค้นหาแบบข้อความ และ 31% คลิกโฆษณาแบบรายการสินค้า และ 16% คลิกโฆษณาที่เป็นวิดีโอ (Clutch)
- 26% ของผู้คนบอกว่า ตนเองคลิกโฆษณาเพียงเพราะคุ้นเคยกับชื่อแบรนด์บนโฆษณา (Clutch)
สถิติการตลาดบนโซเชียลมีเดีย
มาดูสถิติโซเชียลมีเดียกัน แทนที่จะแสดงรายการสถิติ “ทั่วไป” เกี่ยวกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย แต่เราจะแยกย่อยตาม แพลตฟอร์ม ซึ่งคุณสามารถดูสถิติที่เน้นไปที่แพลตฟอร์มยอดนิยมบางแพลตฟอร์มได้
ข้อมูลต่อไปนี้เป็นสถิติจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ Facebook ทั่วโลก
- ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 Facebook มีผู้ใช้งานมากกว่า 2.7 พันล้านคนต่อเดือน (Statista)
- ผู้ใช้ Facebook ใช้เวลาเฉลี่ย 38 นาทีต่อวันบนแอพมือถือ (TechJury)
- 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาใช้ Facebook (Pew Research)
- 10.74% ของผู้ใช้ Facebook ทั้งหมดอาศัยอยู่ในอินเดีย ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ สหรัฐอเมริกามาเป็นอันดับสอง (Sprout Social)
- 95.1% ของคนใช้งาน Facebook ทั้งหมดใช้งานบนมือถือ (TechJury)
ต่อไปนี้เป็นสถิติสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับผู้ใช้ Instagram
- Instagram มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน (Instagram)
- 37% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกานั้น ใช้งาน Instagram (Pew Research)
- 72% ของผู้ใช้บน Instagram ยอมรับว่า ได้ทำการซื้อสินค้าหลังจากเห็นบนแอพ (Business Insider)
- มีการแชร์รูปภาพและวิดีโอมากกว่า 100 ล้านรายการบน Instagram ในแต่ละวัน (Omnicore)
นี่คือข้อมูลสถิติเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม B2B ยอดนิยมอย่าง LinkedIn
- มีผู้ใช้ LinkedIn มากกว่า 706 ล้านคนทั่วโลก (LinkedIn)
- 27% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ใช้ LinkedIn (Pew Research)
- 82% ของนักการตลาด B2B รายงานว่า LinkedIn เป็นช่องทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด (LinkedIn)
- 57% ของการเข้าชม LinkedIn ทั้งหมดมาจากมือถือ (LinkedIn)
ตอนนี้ได้เวลาดูสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Twitter แล้ว
- Twitter มีผู้ใช้ 321 ล้านคนต่อเดือน (Washington Post)
- นักการตลาด B2B ประมาณ 17.5% มากกว่านักการตลาด B2C ใช้ Twitter เพื่อทำการตลาดให้กับธุรกิจของตน (Statista)
- ทวีตที่มีรูปภาพ อินโฟกราฟิก วิดีโอ และเนื้อหาที่เป็นรูปภาพประเภทอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะถูกรีทวีตมากกว่า 94% (Buffer)
- มีการโพสต์มากกว่า 500 ล้านทวีตในแต่ละวัน (Twitter)
- 22% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาใช้ Twitter (Pew Research)
Pinterest เป็นโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ ที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เหตุใดธุรกิจจำนวนมาก ควรพิจารณา Pinterest ในการทำการตลาด
- มีผู้ใช้ Pinterest มากกว่า 459 ล้านคน (Pinterest)
- 85% ของผู้ใช้ Pinterest ใช้งานบนเว็บไซต์ด้วยมือถือ (Pinterest)
- ผู้ใช้ Pinterest โดยเฉลี่ยใช้เวลาอยู่ในบนแพลตฟอร์ม 14.2 นาที (Branex)
- 79.5% ของผู้ใช้ Pinterest ในสหรัฐอเมริกาเป็นผู้หญิง (Statista)
Snapchat
มาดูสถิติที่น่าสนใจสุดๆ เกี่ยวกับแอพแชร์รูปภาพและวิดีโอ Snapchat
- มีผู้ใช้งาน Snapchat 249 ล้านคนต่อวัน (Statista)
- มีการสร้าง Snap ประมาณ 2.1 ล้านครั้งทุกนาที (Statista)
- ผู้ใช้ Snapchat ประมาณ 61% เป็นผู้หญิง (Statista)
- ผู้ใช้ Snapchat เฉลี่ยคือ 34.1 ข้อความต่อวัน (CNBC)
- ผู้ที่ใช้ Snapchat ใช้เวลาเฉลี่ย 34.5 นาทีต่อวันบนแพลตฟอร์ม (CNBC)
การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
สถิติเหล่านี้จะทำให้คุณรู้ว่า เหตุใดโฆษณาบนโซเชียลมีเดียจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว
- 53% ของบริษัทต่างๆ ใช้โฆษณาโซเชียล แบบชำระเงิน (Hootsuite)
- ธุรกิจกว่า 2 ล้านแห่งใช้แพลตฟอร์มโฆษณาของ Instagram (Instagram)
- 7 ล้านธุรกิจใช้แพลตฟอร์มโฆษณาของ Facebook (Facebook)
- ราคาต่อหนึ่งคลิกโดยเฉลี่ยสำหรับโฆษณาบน Facebook คือ $1.86 (Fit Small Business)
- การใช้จ่ายโฆษณาบนโซเชียลมีเดียทั่วโลก คาดว่าจะแตะเกือบ 99 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2020 (Statista)
สถิติ Email Marketing
แม้จะมี Facebook Messenger, Whatsapp และ อื่นๆ อีกก็ตาม แต่อีเมล์ยังคงเป็นช่องทางการขายอันดับ 1 สำหรับธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่ ทีนี้เราจะเจาะลึก ถึงสถิติการตลาดผ่านอีเมล์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งคุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ROI จากการตลาดผ่านอีเมล์
ROI ของอีเมล์เป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับ Facebook, Twitter และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ลองมาดูกัน
- สำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้ไป การตลาดทางอีเมล์จะสร้างผลตอบแทน 44 ดอลลาร์ (Campaign Monitor)
- อีเมล์เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ในการได้มาซึ่งลูกค้า ซึ่งมากกว่า Facebook และ Twitter ถึง 40 เท่า (McKinsey)
- นักช้อปที่ได้รับอีเมล์ ใช้จ่ายมากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับข้อเสนอในอีเมล์ถึง 138% (Disruptive Advertising)
- การตลาดผ่านอีเมล์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลลูกค้าเป้าหมาย 31% ของธุรกิจอ้างถึงจดหมายข่าว ว่าเป็นกลวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านนี้ (Content Marketing Institute)
- 73% ของนักการตลาดให้คะแนน ROI ของอีเมล์ว่า “ดี” หรือ “ดีเยี่ยม” (SaleCycle)
อัตราการเปิดอีเมล์
อัตราการเปิด “ปกติ” คืออะไร? เหตุใดบุคคลในรายการติดต่อทางอีเมล์ของคุณจึงเปิดอีเมล์บางฉบับและไม่เปิดอีเมล์อื่น สถิติเหล่านี้มีคำตอบ
- การศึกษาของ Experian พบว่าการใส่อิโมจิในหัวเรื่องของอีเมล์เพิ่มอัตราการเปิดขึ้น 56% เมื่อเทียบกับหัวเรื่องที่เป็นข้อความเท่านั้น (Campaign Monitor)
- หัวเรื่องแบบส่วนตัวสร้างอัตราการเปิดเพิ่มขึ้น 26% (Campaign Monitor)
- ชื่อผู้ส่งส่วนบุคคล สามารถเพิ่มอัตราการเปิดได้ถึง 35% เมื่อเทียบกับที่อยู่อีเมล์ทั่วไปหรือชื่อบริษัท (Pinpointe)
- อีเมลที่ส่งในอเมริกาเหนือ มีอัตราการเปิดเฉลี่ย 19% (GetResponse)
- รัฐบาลเป็นภาคส่วนที่มีอัตราการเปิดอีเมลสูงสุด เฉลี่ย 28.77% (Mailchimp)
อีเมล์บนมือถือ
สถิติเหล่านี้ทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น : ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เปิด (และมีส่วนร่วมกับ) อีเมล์บนโทรศัพท์และแท็บเล็ตของตน
- 49% ของอีเมล์ที่อ่านทั้งหมดเกิดขึ้นบนอุปกรณ์มือถือ (eMailmonday)
- ในเดือนกันยายน 2020 อีเมล์ทั้งหมด 36% ถูกอ่านบน iPhone และเป็นบัญชี Gmail 26% (Email Client Market Share)
- 23% ของผู้บริโภคที่เปิดอีเมล์โดยใช้อุปกรณ์มือถือ จะเปิดอีเมล์เดิมอีกครั้งในภายหลัง (Campaign Monitor)
- จากข้อมูลของ Google 75% ของผู้ใช้ Gmail เข้าถึงบัญชีของตนโดยใช้อุปกรณ์มือถือ (Tech Crunch)
- อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของการคลิกอีเมล์ทั้งหมดมีการลงทะเบียนบนมือถือ (Campaign Monitor)
การมีส่วนร่วมทางอีเมล
เมื่อมีคนเปิดอีเมล์ของคุณแล้ว คุณจะให้พวกเขาทำอะไร สำหรับคำตอบของคำถามนั้น มาดูผลลัพธ์จากการศึกษาและการสำรวจนี้กันเลย
- การเพิ่มปุ่มคำกระตุ้นการตัดสินใจในอีเมล์ของคุณแทนที่ลิงก์แบบข้อความธรรมดา สามารถเพิ่มการคลิกได้ 28% (Campaign Monitor)
- การใช้รูปภาพในแคมเปญอีเมล์ สามารถเพิ่มการคลิกได้ถึง 42% (Vero)
- อีเมล์ในอเมริกาเหนือมีอัตราการคลิกเพื่อเปิด เฉลี่ย 15.71% (GetResponse)
- อีเมล์ช่วยเพิ่มจำนวนคลิกโดยเฉลี่ย 6 เท่าจากทวีต (Campaign Monitor)
สถิติ Content Marketing
ตั้งแต่ SaaS ไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ Content Marketing คือจุดเดือดในโลกของ Digital Marketing คำถามคือตอนนี้ Content Marketing ใหญ่แค่ไหน? และอะไรที่ทำให้บางบริษัทประสบความสำเร็จด้วยเนื้อหาในขณะที่บริษัทอื่นประสบปัญหา ในบทความนี้ได้รวบรวมรายการสถิติต่างๆ ที่คัดสรรมาเพื่อตอบคำถามนี้
Podcast
ดูเหมือนว่าคนจำนวนมากขึ้นจะมีพอดแคสต์แล้ว และนี่ก็เป็นสิ่งที่ดี : Podcast เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างบ้าคลั่ง
- 55% ของชาวอเมริกันเป็นผู้ฟังพอดแคสต์ (Statista)
- จำนวนพอดแคสต์ที่ใช้งานอยู่มีมากกว่า 1.5 ล้าน (Podcast Insights)
- 54% ของผู้ฟัง Podcast ในสหรัฐฯ ที่ฟังผ่านมือถือใช้ระบบ iOS ของ Apple (Music Oomph)
- สมาร์ทโฟนเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการรับเนื้อหาจาก Podcast (Edison Research)
- Podcast ดึงดูดผู้ฟังประมาณ 104 ล้านคนต่อเดือน (Edison Research)
- แนวตลกเป็นประเภท Podcast ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รองลงมาคือ ข่าว และการศึกษา (Podcast Insights)
บล็อก
บล็อกยังคงเป็นช่องทางทำ Content Marketing ที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับ ROI ที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
- โพสต์บนบล็อกต่างๆ มีความยาวเฉลี่ย 1,269 คำ (Orbit Media)
- นักการตลาดเพียง 15% เท่านั้นที่จัดอันดับให้บล็อกเป็นสื่อชั้นนำใน Content Marketing นี่เป็นอันดับสองรองจากวิดีโอ (HubSpot)
- 77% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้าไปอ่านบล็อก (D. John Carlson)
- มีการเผยแพร่บล็อกโพสต์ มากกว่า 4.4 ล้านรายการในแต่ละวัน (Tech Jury)
- 36% ของผู้คน ชอบหัวข้อที่มีตัวเลข (Conversion XL)
- 54.2% ของบล็อกเกอร์ที่เขียนเนื้อหาแบบยาว อ้างว่าเห็นผลลัพธ์ดีที่ (Orbit Media)
- ในการเขียนบทความลงบล็อกโดยเฉลี่ยใช้เวลาเขียน 3 ชั่วโมง 55 นาที (Orbit Media)
การตลาดด้วยวิดีโอ
วิดีโอทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกมนต์สะกดจริงหรือไม่? จากสถิติเหล่านี้ ต้องขอบอกว่า: “ใช่!”
- 40% ของบริษัทต่างๆ ระบุว่ารูปแบบเนื้อหาที่ให้ ROI สูงสุด คือ วิดีโอ (Animoto)
- 86% ของผู้บริโภคกล่าวว่า ต้องการเนื้อหาวิดีโอเพิ่มเติมจากแบรนด์ที่ตนเองสนใจ (Wyzowl)
- นักการตลาดเกือบ 1 ใน 5 มีการใช้วิดีโอเป็นสื่อหลักในการทำการตลาด โดยจากนั้นก็เป็นบล็อก และอินโฟกราฟิก (HubSpot)
- ธุรกิจมากกว่า 90% ได้รับลูกค้าใหม่อย่างน้อยหนึ่งรายบนโซเชียลมีเดีย อันเป็นผลมาจากวิดีโอ (HubSpot)
- 87% ของนักการตลาดกล่าวว่าวิดีโอช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของตน (Wyzowl)
- แพลตฟอร์ม 3 อันดับแรกที่นักการตลาดใช้ในการโพสต์วิดีโอ ได้แก่ YouTube, Facebook และ LinkedIn รองลงมาคือ Instagram ในอันดับที่ 4 (Wyzowl)
- สองในสามของผู้บริโภคกล่าวว่า วิดีโอสั้นเป็นสิ่งที่ตนเองอยากเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Wyzowl)
- 55% ของผู้คนดูเนื้อหาวิดีโอออนไลน์ทุกวัน (HighQ)
- มีการเข้าชมวิดีโอ YouTube 1 พันล้านชั่วโมงต่อวัน (YouTube)
สถิติ Marketing Automation
มาปิดท้ายส่วนนี้ด้วยสถิติบางส่วนเกี่ยวกับ Marketing Automation (การตลาดอัตโนมัติ) มาดูว่ามีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง
- 75% ของบริษัทใช้เครื่องมือ Marketing Automation อย่างน้อยหนึ่งอย่าง (Social Media Today)
- 61% ของนักการตลาดระบุว่าข้อกังวลหลักของตนเองเกี่ยวกับเครื่องมือ Marketing Automation คือการขาดการปรับเปลี่ยนในแบบของตัวเอง (Social Media Today)
- สำหรับ 91% ของนักการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้กล่าวว่า “Marketing Automation มีความ สำคัญมาก” (Marketo)
- ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการตลาดมากกว่า 7,000 อย่าง (chiefmartech)
- บริษัทต่างๆ คาดว่าจะใช้จ่ายเงิน 25.1 พันล้านดอลลาร์ในด้านเทคโนโลยี Marketing Automation ภายในปี 2566 (Venture Harbour)
- บริษัทเกือบ 2 ใน 3 วางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านเครื่องมือ Marketing Automation ในปีนี้ (Invesp)
- อีเมล์แบบอัตโนมัติสร้างรายได้มากกว่าอีเมล์ที่ไม่เป็นแบบอัตโนมัติถึง 320% (Campaign Monitor)
สถิติ Affiliate marketing
โลกการตลาดแบบ Affiliate ในปัจจุบันนี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ซึ่งตอนนี้การตลาดแบบ Affiliate ได้มีการพัฒนาและเติบโตเต็มที่ และต้องขอบคุณการระเบิดของ Influencer Marketing อย่างมาก จึงทำให้การตลาดแบบ Affiliate ยังคงเติบโต
- การใช้จ่ายด้าน Affiliate marketing ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะสูงถึง 8.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2022 (Statista)
- หมวดหมู่ Affiliate 3 อันดับแรก ได้แก่ แฟชั่น กีฬา/กลางแจ้ง และสุขภาพ/ความงาม (AM Navigator)
- Affiliate marketing คือกลยุทธ์ทางการตลาดอันดับ 2 ที่เจ้าของเว็บไซต์หรือบล็อกเกอร์ต่างๆ ใช้เพื่อสร้างรายได้ รองจาก Google AdSense (VigLink)
- นักการตลาด Affiliate กว่า 69% ใช้ SEO เพื่อเพิ่มการเข้าชม (Affstat)
- 59.32% ของ บริษัท ในเครือส่งเสริมผลิตภัณฑ์ B2C (Affstat)
- นักการตลาด Affiliate น้อยกว่า 10% สร้างรายได้มากกว่า $100,000 ในแต่ละปี (Affstat)
- นักการตลาด Affiliate ส่วนใหญ่ (42.17%) โปรโมตผลิตภัณฑ์ 1-10 รายการ (Affstat)
- นักการตลาด Affiliate มากกว่า 2 ใน 3 คน อาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ (Affstat)
- 40% ของเจ้าของสินค้าในสหรัฐอเมริกาอ้างว่า ระบบ Affiliate เป็นช่องทางการหาลูกค้าอันดับต้น ๆ (Inc.)
สถิติเกี่ยวกับการเพิ่ม Conversion Rate
สถิติ Digital Marketing ส่วนใหญ่ที่เราเคยดูมานั้น มุ่งเน้นที่การเพิ่มคนเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งมันก็ดีมาก แต่สุดท้ายแล้ว คุณอาจต้องการให้คนเข้าชมเหล่านั้นเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของคุณ และหากคุณสนใจที่จะดูว่า CRO (Conversion Rate Optimization) สามารถช่วยได้มากน้อยเพียงใด ลองดูสถิติ เหล่านี้
- จากข้อมูลของ Venture Beat แบรนด์ที่ลงทุนในเครื่องมือ CRO จะเพิ่ม ROI เฉลี่ย 223% (Venture Beat)
- Outbrain พบว่าหัวข้อข่าวที่มีคำเชิงลบเช่น “ไม่เคย” หรือ “แย่ที่สุด” มีประสิทธิภาพดีกว่าหัวข้อข่าวที่มีคำเชิงบวกถึง 63% (Adweek)
- บริษัทที่ใช้หน้า Landing Page มากกว่า 10 หน้าจะได้รับประโยชน์จากโอกาสในการขายที่เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับบริษัทที่ใช้หน้า Landing Page 10 หรือน้อยกว่า (HubSpot)
- ในการศึกษาที่เผยแพร่โดย VWO การลบ เมนูหลัก ในหน้า Landing Page สามารถเพิ่ม Conversion ได้ถึง 100% (VWO)
- 58% ของบริษัทต่างๆ กำลังทำการทดสอบ A/B Testing เพื่อปรับปรุง Conversion Rate (Econsultancy)
- Conversion Rate เฉลี่ยในหน้า Landing Page ในทุกธุรกิจคือ 9.70% (UnBounce)
- การใช้วิดีโอบนหน้า Landing Page สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้ถึง 80% (depositphotos)
- Conversion Rate เฉลี่ยในการสมัครอีเมล์คือ 1.95% (Sumo)
- Conversion Rate ของนักช็อปออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาบนเดสก์ท็อปคือ 4.14% และ 3.36% บนแท็บเล็ต และ 1.53% บนมือถือ (Statista)
- บริษัทต่างๆ ใช้จ่ายเฉลี่ย $2,000 ต่อเดือนกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion Rate (Venture Beat)
- HubSpot พบว่าการปรับแต่งคำกระตุ้นการตัดสินใจถือว่าเป็นส่วนช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้ถึง 202% (HubSpot)
- หน้าเว็บโหลดช้า 1 วินาทีสามารถลด Conversion Rate ได้ 7% (Neil Patel)
- อีเมล์ที่มีคำกระตุ้นการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวสามารถเพิ่มการคลิกได้ถึง 371% (WordStream)
บทสรุปสำหรับสถิติ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ รายการสถิติเกี่ยวกับ Digital Marketing ที่สำคัญ ครอบคลุมหลากหลายด้านในการตลาด Digital Marketing ซึ่งคุณสามารถนำไปพัฒนาหรือปรับปรุงการตลาดสำหรับธุรกิจคุณได้
และหากคุณมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสถิติใด ๆ ที่คุณต้องการให้เพิ่มลงในรายการนี้ โปรดบอกมาได้ในคอมเม้นได้เลย